ฮั่นแน่… สงสัยเริ่มมีปัญหาโรคเหงือกแล้วละคะ โดยโรคนี้พบมากถึง 3 ใน 4 ของสุนัขปกติและพบมากขึ้นเมื่ออายุของสุนัขมากขึ้น
ก็แค่โรคเหงือกมันจะสักแค่ไหนกันเชียว?
คิดผิดอย่างมากคะ เพราะอย่างแรกเลยคือจะทำให้เขากินอาหารน้อยลง ผอม และเชื้อแบคทีเรียในช่องปากอาจจะไปตามกระแสเลือด ก่อให้เกิดการติดเชื้อที่ หัวใจ ตับ ไต ได้
ทำไมสุนัขชั้นอายุเท่าข้างบ้าน แต่เขาไม่เห็นเป็นอะไรเลย
ไม่แปลกหรอกคะ เพราะยังมีส่งโน้มนำอื่นๆที่ทำให้เกิดหินปูนได้ง่าย เช่นการกินอาหาร ถ้าเป็นอาหารปรุงเองหรืออาหารกระป๋องจะมีโอกาสเป็นหินปูนได้ง่ายกว่าอาหารเม็ด เพราะจะติดกับผิวฟันพร้อมจะเป็นอาหารของแบคทีเรียได้มากกว่า รวมถึงการดูแลสุขภพฟันที่แตกต่างกันเช่น การแปรงฟัน การให้ขนมระหว่างมื้ออาหารเป็นต้น
แล้วลำดับขั้นของการพัฒนาการโรคเหงือกและฟันในสุนัขและแมวเป็นอย่างไร?
- เหงือกอักเสบขั้นต้น คือ ขอบเหงือกต่อกับคอฟันบวมแดง มีคราบหินปูนน้ำลาย (plague) เกาะคลุม
- เหงือกอักเสบปานกลาง คือเหงือกหุ้มฟันทั้งซีกมีอาการอักเสบบวมแดง เริ่มมีอาการเจ็บในช่องปาก และมีกลิ่นปาก
- เหงือกอักเสบรุนแรง เหงือกหุ้มฟันมีอาการอักเสบบวมแดงเป็นสีแดงคล้ำมีเลือดออก เหงือกถูกทำลายจากการติดเชื้อและหินปูน มีอาการเจ็บปาก กินอาหารไม่ได้ ปากเหม็น ลมหายใจมีกลิ่น
- เหงือกอักเสบรุนแรงขั้นสุดท้าย (โรคปริทันต์) คือ หินปูนเกาะหนา เหงือกอักเสบทั้งหมดถูกทำลายมีการกระจายไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย โดยผ่านทางกระแสโลหิตและอาจจะเข้าทำลายหัวใจ ตับ ไตได้
สุนัขและแมวฟันผุได้ไหม?
เจ้าของส่วนใหญ่สงสัยว่าสุนัขและแมวจะเป็นฟันผุหรือไม่ ในเรื่องของฟันผุในสุนัขและแมวนั้นมีแต่พบเจอไม่มาก เพราะผิวสัมผัสของฟันจะน้อยกว่าในคน ถ้ามีการผุก็สามารถอุดได้โดยใช้วัสดุอุดสีเหมือนฟันและอมัลกัมในการอุดฟันเพื่อให้สุนัขและแมวมีสุขภาพฟันที่ดีเหมือนเดิม
เฮ้อ…ถ้าเป็นแล้วจะทำอย่างไรได้บ้าง?
ถ้าเป็นในช่วงที่ไม่รุนแรงคือ แค่เหงือกอักเสบ บวมแดง มีคราบน้ำลาย(Plague) สามารถกำจัดได้ด้วยการแปรงฟันและให้อาหารเฉพาะสำหรับโรคฟัน โดยอาหารเม็ดค่อนข้างใหญ่และมีการเรียงตัวของเส้นใยในแนวนอน เมื่อสุนัขกัดก็จะเท่ากับขัดฟันไปในตัว โดยอาจจะให้สลับกับอาหารปกติหรือเป็นอาหารหลักเลยก็ได้ไม่มีปัญหา
การให้ขนมขัดฟัน ช่วยลดคราบจุลรินทรีย์ได้ แต่เฉพาะด้านที่เขาถนัดเคี้ยวเป็นประจำ ส่วนน้ำยาที่หยดในน้ำดื่มจะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากได้เล็กน้อย ทำให้กลิ่นปากลดลงได้
แต่ถ้าเริ่มมีหินปูนเกาะเหงือกจนร่น การวางยาเพื่อขูดหินปูนเป็นสิ่งจำเป็น และอาจจำเป็นต้องถอนฟันออกด้วยบางซี่หากรากฟันมีหนองหรือเบ้ากระดูกที่รองรับฟันสึกกร่อนไปมาก และหลังจากการขูดหินปูนแล้วเราควรต้องทำการแปรงฟันและให้อาหารเฉพาะสำหรับโรคฟัน เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำอีก
ถ้าสัตว์อายุมาก เสี่ยงต่อการวางยาสลบอาจกะเทาะหินปูนบางส่วนคือด้านที่ติดกับกระพุ้งแก้มออก และถ้าฟันซี่ไหนที่โยกมากก็สามารถถอนออกได้โดยการบล็อกเส้นประสาท แต่มีข้อแม้ว่าสุนัขต้องไม่ดื้อจนจับไม่ได้ในห้องตรวจ
เดี๋ยวนี้มียาสีฟันสุนัขและแมวด้วยหรือ? และต่างกับของคนอย่างไร?
ปัจจุบันมียาสีฟัน และแปรงสีฟันเฉพาะของสุนัขและแมว เราไม่ควรนำยาสีฟันของคนมาใช้กับเขาเพราะสุนัข แมวป้วนปากไม่เป็นแต่จะกลืนลงไปเลย ทำให้มีโอกาสได้รับสารเคมีในยาสีฟัน เช่นฟลูออไรด์มากเกินไปจนเป็นอันตรายได้
ยาสีฟันสำหรับสุนัขและแมวมีส่วนประกอบของเอนไซม์ที่คล้ายน้ำลาย ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและ ช่วยป้องกันการสะสมของคราบหินปูน สามารถกลืนได้ไม่ต้องบ้วนออกที่สำคัญคือไม่มีฟอง ซึ่งอาจทำให้สำลัก แปรงสีฟันมีหลายแบบ ตั้งแต่ปลอกสวมนิ้วสำหรับสุนัขหน้าสั้นและแมว และมีด้ามจับถนัดมือสำหรับสุนัขหน้ายาว
สุนัขดื้อจะแย่ ไม่มีทางยอมแปรงฟันแน่ๆ
ต้องอาศัยความอดทนและใจเย็น ตอนแรกอาจลองให้เขาชิมยาสีฟันก่อน เพราะยาสีฟันส่วนใหญ่จะมีรสชาติชวนกิน เช่น รสไก่ รสเนื้อเป็นต้น ให้เขาคุ้นเคย แล้วค่อยๆเริ่มแปรงโดยเปิดริมฝีปากบนขึ้น แล้วแปรงเฉพาะด้านนอก โดยแปรงจากฟันหมุนวนเป็นวงกลมทางแนวนอน โดยแปรงฟันบนก่อน ส่วนฟันล่างให้แทรกบนแปรงไปด้านใต้บนฟัน โดยไม่จำเป็นต้องอ้าปาก แล้วแปรงในลักษณะเดียวกัน อาจจะเริ่มแปรงทีละด้านก่อนอย่าให้เขารู้สึกว่าถูกบังคับ แต่อย่างไรก็ตามการแปรงฟันทั้งปากไม่ควรเกิน 1 นาทีเพื่อให้เขารู้สึกว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่น่าเบื่อเกินไป และอย่าลืมคำชมหรือของรางวัลเช่น พาไปเดินเล่นหลังจากที่เขายอมแปรงฟันโดยดี
แมวที่เป็นโรคเหงือกอักเสบเรื้อรังเป็นๆ หายๆ
แมวที่มีอาการอักเสบเรื้อรังเพราะแบคที่เรียในช่องปาก หรือเกิดจากเซลล์ของร่างกายบางชนิดที่ทำงานมากไป จนกระตุ้นการอักเสบตลอดเวลา สามารถลดการอักเสบโดยให้ยาปฏิชีวนะต่อเนื่อง 1-15 เดือน หรือการถอนฟันทั้งหมดที่เป็นต้นเหตุของการอักเสบออก โดยสุนัขและแมวจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและยังคงกินอาหารตามปกติได้โดยใช้เพดานปากที่เป็นคลื่นช่วยในการบดเคี้ยว
เพียงแค่นี้คุณก็สามารถหอมสุนัขและแมว ได้อย่างชื่นใจไปแล้วละคะ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คลินิกโรคฟัน โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อทุกสาขา
ที่มา : http://www.thonglorpet.com